Search


ครบ 1 อาทิตย์แล้ว สำหรับคอนเทนท์นี้ : D
  • Share this:


ครบ 1 อาทิตย์แล้ว สำหรับคอนเทนท์นี้ : D

เราดีใจมากเลยที่หลายคนเมสเสจเข้ามาหาเรา
และพูดถึงเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจ
ที่ได้รับหลังจากอ่านเรื่องนี้จบ

อยากบอกว่า ทุกคำพูดมันมีความหมายสำหรับเรามากเลยนะ
เราดีใจมากจริงๆที่ได้เป็นแรงผลักเล็กๆ
ที่อาจจะไม่เกิดผลในเร็ววันนี้ แต่เราเชื่อว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่นอน ขอบคุณที่ชอบและขอบคุณที่ส่งต่อมันออกไป
เราได้อ่านทุกข้อความและได้อ่านทุกแคปชันที่หลายคนเขียนถึงในตอนที่แชร์ลิงค์นี้

เพราะมันค่อนข้างยาว และเราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนอ่านมันมากมาย เท่านี้มันเลยเป็นเรื่องพิเศษสำหรับเรามาก
ขอบคุณอีกทีนะ 😁
และหลังจากนี้เดี๋ยวเราจะมาลงคอนเทนท์ที่รวบรวม Gallery & Museum ในลอนดอนแบบเต็มๆ
มีมากถึง 17 ที่เลยหละ รอติดตามนะ
Love,
#ABOVETHEMARS

“ For what it's worth,
it's never too late.”

อาจจะไม่คาดคิด แต่ต้องยอมรับว่าเราเองก็คือหนึ่งในคนที่หมด Passion กับสิ่งที่เราคิดว่าเราสามารถทำมันได้ทุกวัน
ในทางกายภาพสภาวะแบบนี้เราสามารถเรียกได้ว่ามันคือ ภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome)
เราไม่อยากออกไปเจอกับสภาวะเก่าๆ ไม่อยากออกไปเจอสังคม เหมือนขาดแรงจูงใจในการทำอะไรหลายอย่าง
จากที่เป็นคนที่สามารถรับมือกับหลายอย่างพร้อมกันได้ (หรือคิดไปเองว่าสามารถจัดการกับทุกอย่างได้)
ความสามารถก็น้อยลง ผลที่ตามมาคือความ รู้สึกแย่กับตัวเอง (Imposter Syndrome)
เพราะคิดว่าตัวเองนั้นไม่มีความสามารถเท่าเดิม

ปีที่แล้ว ณ ประเทศเนปาล
ความลำบากของเส้นทางทำให้เราได้อยู่แต่กับตัวเอง
นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราตัดสินใจ ว่าเราอยากไปใช้ชีวิตที่อยู่ห่างจากสภาพแวดล้อมแบบเดิมๆสักระยะ
หาเพื่อนใหม่ ใช้ชีวิตอยู่ในที่ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แบบการเดินทางแค่ชั่วคราว แบบที่พอใกล้จะปรับตัวได้ก็ต้องจากลา
เราใช้เวลาไตร่ตรองไม่นานเลยกับความคิดนี้
ตอนนั้นคิดแค่เพียงว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตกลับมาเป็นชีวิตอีกครั้ง

เหมือนคำที่หยกชอบบอกกับเราว่า “We travel not to escape life, but for life not to escape us.”
งั้นครั้งนี้คิดซะว่าเป็นไปการท่องเที่ยวตามหาตัวเองที่หายไปในระยะยาว 6 เดือนก็แล้วกัน

ทั้งหมดนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจไปเรียนและใช้ชีวิตที่ลอนดอนระยะหนึ่ง
เรื่องราวทั้งหมดเราแค่อยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาของเรา อาจไม่ได้จริงจังมากเพราะเราตั้งใจจะเขียนให้ครบถ้วนมากที่สุด และอาจไม่ใช่เรื่องราวที่สนุกอะไร
แค่อยากรวบรวมไว้เผื่อใครสักคนอยากจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการไปเสาะหาประสบการ์ณและเรียนระยะสั้นๆ

มาพูดถึงการเรียนที่ประเทศอังกฤษ
หลายคนอาจจะนึกถึงปริญญาโทหรือการมาเรียนภาษา
ที่ใช้เวลาสามเดือนถึงหกเดือนหรืออาจเป็นปี
แต่นอกเหนือจากอะไรเหล่านี้แล้ว จริงๆ ที่นี่ยังมีคอร์สเกี่ยวกับ Art & Design ให้เลือกเรียนมากมาย
ทั้งยังสามารถลงเรียนในระยะเวลาสั้นได้ด้วย
และเมื่อคอร์สสิ้นสุดเราก็ยังได้ใบ Certificate มาเป็นพอร์ทได้อีก
Short Course จึงเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่สนใจอะไรแบบเฉพาะเจาะจงแต่มีเวลาน้อย
หรือไม่ก็อยากมาเพื่อหาประสบการณ์ แลกเปลี่ยนทัศนคติที่กว้างขึ้น

บวกกับด้วยความที่ลอนดอนมี Gallery, Museum และ Exhibition รวมถึง Gig ต่างๆ เยอะมาก
เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นแรกๆ ของทั้งงานศิลป์ งานดนตรี เพลง หรืองานต่างๆ
ส่วนมากจึงจัดขึ้นที่นี่ก่อนใครเพื่อน ก่อนจะถูกกระจายไปที่อื่นๆ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกที่ลอนดอน เพราะเราเชื่อว่าการเรียนรู้มันไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียนแน่ๆ

โดยในเว็บไซต์จะมีเรื่องที่คนเคยถามเราเข้ามาใน instagram เรารวบรวมไว้ทั้งหมดเลย
ทั้งเรื่องการสมัครเรียน ค่าใช้จ่ายอย่างคร่าวๆ
การเรียนการสอน ที่อยู่ในนระยะสามถึงหกเดือน
สังคมและเพื่อน เราได้อะไรกลับมาบ้าง : ))

ถ้าใครอ่านจนถึงตอนจบเราคงจะดีใจมาก
เพราะมันยาวมากเลย 55
หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์และเพลิดเพลินกับมัน
และเป็นอีกหนึ่งความสุขเล็กๆ ในวันหยุดยาวนะ

With Love,
From Mars.
London, United Kingdom

#ABOVETHEMARS #LETTERSFROMMARS
#LOVEYOUTOTHEMARS


Tags:

About author
not provided
We travel not to escape life. But, for life not escape us.
View all posts